อยากหน้าใสทำไงดี รวมเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวอย่างเป็นธรรมชาติ

How To Have A Clear Face

ปัญหาใบหน้าหมองคล้ำเป็นปัญหาที่เกิดได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ดูแลตัวเองด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้เกิดปัญหานี้ได้บ่อย ๆ อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาใบหน้าหมองคล้ำเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรืออาจใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อเร่งให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างถูกวิธีก็ได้เช่นกัน

เราจะมาแนะนำกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่สามารถทำให้หน้าใสไร้สิวอย่างเป็นธรรมชาติได้ โดยจะแนะนำทั้งวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือวิธีทางการแพทย์ เพื่อให้สุขภาพผิวของเราได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดหรือมลภาวะเป็นพิษมากเท่าไหร่ก็ตาม

สาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำคืออะไร

สิ่งแรกที่ต้องการให้ทุกคนได้เรียนรู้ก็คือการทราบสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ สิ่งสำคัญที่มีผลต่อความหมองคล้ำเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ ดังต่อไปนี้ 

1. สภาพอากาศและมลภาวะ การที่เราต้องออกนอกบ้านและเผชิญหน้ากับแสงแดดทุกวัน ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่ทำให้ใบหน้าที่เคยหน้าใสไร้สิวกลายเป็นผิวที่หมองคล้ำได้ทั้งสิ้น เนื่องจากแสงแดดมีทั้งรังสี UVA หรือ UVB ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีผิว และยังมีผลต่อการทำร้ายเซลล์ผิวจนเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย 

2. การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ล้วนแต่มีการปล่อยรังสี UV และแสงสีฟ้าออกมาอยู่เสมอ แสงเหล่านี้จะกระทบกับผิวหน้าของเราโดยตรง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ โดยเฉพาะในสังคมยุคปัจจุบันที่แทบจะไม่สามารถปฏิเสธการติดต่อสื่อสารผู้คนผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เลย 

3. เครื่องสำอาง สำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ และไม่ให้ความสำคัญกับการล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด อาจมีผลทำให้เกิดการอุดตันของเครื่องสำอางบริเวณรูขุมขน จนเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้

4. ความเครียด ความเครียดเป็นตัวเร่งให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในการเปลี่ยนแปลงของสีผิวหรือปัญหาผิวในรูปแบบอื่นใดก็ตาม 

5. การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ คนที่มักจะนอนดึก ตื่นเช้า หรือนอนน้อย มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาบนใบหน้าได้มากกว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการพักผ่อนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ผิวได้พักฟื้น รวมไปถึงการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองของอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายด้วย ดังนั้น ถ้าอยากหน้าใสไร้สิวจึงต้องนอนหลับและตื่นนอนเป็นเวลาอยู่เสมอ

วิธีทำให้หน้าใสไร้สิวแบบธรรมชาติ

เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ การใช้วิธีจากธรรมชาติเพื่อเข้ามาช่วยทำให้หน้าใสไร้สิวอีกครั้งเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ และมีหลากหลายวิธีที่สามารถลดความหมองคล้ำ หรือทำให้ผิวหน้าของเรากลับมาสดใสอย่างเป็นธรรมชาติได้ ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดมีความร้ายกาจมากกว่าที่คุณคิด เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวและทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ รวมถึงยังเป็นบ่อเกิดของริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย ดังนั้น การปกป้องผิวด้วยร่ม หมวก หรือสวมใส่เสื้อแขนยาวจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้
  • ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะออกจากบ้านหรือใช้ชีวิตในบ้านก็ควรเลือกทาครีมกันแดดอยู่เสมอ โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม และทาซ้ำระหว่างวันหากต้องใช้ชีวิตกลางแดดนาน ๆ การใช้ครีมกันแดดที่มีความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UV จะช่วยทำให้หน้าใสไร้สิวและป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังที่เป็นอันตรายได้
  • ใช้สกินแคร์และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า นอกจากการปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดแล้ว การทาครีมบำรุงผิวก็มีส่วนชะลอการเสื่อมโทรมของผิวได้เช่นกัน หากต้องการรักษาผิวให้หน้าใสไร้สิวควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง รวมถึงเรียนรู้การบำรุงผิวอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิวด้วย
  • ขัดผิวด้วยสมุนไพร สมุนไพรบางชนิด เช่น ขมิ้นชัน หรือมะขาม มีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น การขัดผิวด้วยสมุนไพรอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยปรับสภาพผิวให้มีสุขภาพดีมากขึ้นได้
  • รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยปกป้องผิว เลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูงในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน เพราะสารอาหารที่เป็นประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างผิวใสไร้ปัญหาสิวกวนใจได้
  • รับประทานอาหารเสริม กรณีที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ อาหารเสริมจะช่วยเติมวิตามินหรือแร่ธาตุที่ขาดไปบางชนิดได้ โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่เสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงและช่วยลดการเกิดสิวได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ปรับสมดุลของเหลว และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หากต้องการให้หน้าใสไร้สิวแนะนำว่าควรดื่มน้ำให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง มักจะมีผิวหน้าที่สดใสมากกว่า โดยเฉพาะการออกกำลังแบบคาร์ดิโอที่จะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้ด้วย

IV Drip เคล็ดลับปรับผิวให้หน้าใสไร้สิวแบบเร่งด่วน

ถ้าใครไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรืออยากที่จะทำให้หน้าใสอย่างรวดเร็ว การใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยย่นระยะเวลาและทำให้เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายวิธีการที่จะสามารถทำให้ใบหน้าของเราสวยใสไร้สิวได้มากมาย รวมไปถึงการ IV Drip (Intravenous Vitamin therapy) ซึ่งสามารถเลือกเติมวิตามินได้หลากหลายรูปแบบ 

หากต้องการให้วิตามินเข้าไปบำรุงผิวเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นส่วนผสมของวิตามินซี ซึ่งมีความสามารถในการช่วยทำให้ผิวได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งในเรื่องของความกระจ่างใส และทำให้ผิวดูดีมีออร่า อีกทั้งวิตามินซียังเป็นวิตามินที่ให้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น การเสริมภูมิคุ้มกัน ลดอาการอ่อนเพลีย ฟื้นฟูร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า เป็นต้น โดยร่างกายสามารถรับและขับวิตามินซีส่วนเกินออกจากร่างกายได้อย่างปลอดภัยด้วย 

เหตุผลที่การ IV Drip ช่วยทำให้หน้าใสไร้สิวได้ ก็เนื่องมาจากว่าวิตามินจะเข้าไปลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน และเข้าไปช่วยลดปัญหาจุดด่างดำที่มีอยู่บนผิวหน้า หากได้รับในปริมาณที่เพียงพออย่างต่อเนื่องก็จะมีผลทำให้ผิวดูกระจ่างใสได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะใช้วิธีการนี้เพื่อปรับปรุงผิวหน้า จำเป็นจะต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างที่อาจทำให้บางคนไม่สามารถใช้วิธีนี้ในการปรับผิวได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคตับ ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือคนที่มีภาวะพร่องเอนไซม์บางชนิด (G6PD Deficiency)

Skin Booster ทางลัดหน้าใสไร้สิวสำหรับคนมีเวลาน้อย

การเพิ่มวิตามินและสารสกัดสำหรับผิว (Skin Booster) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีผลต่อการช่วยให้ผิวหน้าสวยใสได้มากขึ้น เนื่องมาจากการใช้นวัตกรรมนี้จะเป็นการเพิ่มสารบำรุงต่าง ๆ เข้าไปสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้เห็นผลได้รวดเร็วและรับรู้ถึงความกระจ่างใสได้ภายใน 1 สัปดาห์ 

วิธีทำให้หน้าใสไร้สิววิธีนี้จะเป็นการเติมสารบางชนิดเข้าไปบริเวณชั้นกลางของผิว โดยต้องอาศัยเทคโนโลยีในการระบุจุดฉีดที่ถูกต้อง และใช้วิธีการฉีดชั้นสูง เพื่อลดอาการบวมช้ำให้น้อยที่สุด และทำให้ตัวยากระจายไปทั่วผิวหน้าได้ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสได้อย่างที่ต้องการ 

นอกจากนี้การดูแลผิวหน้าด้วยวิธีนี้ยังมีส่วนเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยกระชับรูขุมขน แก้ปัญหาสิว ผื่น หรือช่วยขับสารพิษที่สะสมได้อย่างตรงจุดอีกด้วย

การทำ Skin Booster จึงเป็นหนึ่งในวิธีลัดสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวอย่างรวดเร็ว หรือไม่ค่อยมีเวลาที่จะทาครีมเป็นประจำ ก็สามารถใช้วิธีการนี้เพื่อปรับปรุงสภาพผิวของตัวเองได้เลย

ผลักวิตามินให้ผิว ทวงคืนหน้าใสไร้สิว ลดความหมองคล้ำอย่างล้ำลึก

การผลักวิตามินให้ผิวเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการสร้างหน้าใสไร้สิวอย่างเร่งด่วน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายวิธีการ ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ เช่น

การทำโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis)

คือ การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวด้วยการใช้คลื่นเสียง วิธีนี้จะใช้เครื่องมือที่ปล่อยคลื่นเสียงเพื่อช่วยผลักวิตามินจากครีมบำรุงต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิว ซึ่งรวดเร็วกว่าการทาครีมด้วยวิธีปกติทั่วไป แม้ว่าอาจจะยังไม่ได้มีงานวิจัยออกมารองรับอย่างชัดเจน ว่าจะช่วยทำให้เห็นผลได้ดีกว่าการทาครีมปกติกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่อย่างน้อยวิธีนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างผิวหน้าที่เรียบเนียน หรือต้องการลดรอยหมองคล้ำอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะรอยคล้ำบริเวณรอบดวงตา ซึ่งถือว่าเป็นรอยที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นบำรุงผิวที่ยาวนาน

การใช้โฟโนโฟเรซิสจะช่วยย่นระยะเวลาได้มาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เพราะการใช้คลื่นเสียงเพื่อสร้างหน้าใสไร้สิวอาจมีอันตรายได้ หากเลือกใช้ความถี่ในช่วงที่ไม่เหมาะสม หรือปล่อยคลื่นเสียงนานจนเกินไป ก็อาจทำให้เซลล์บริเวณนั้นได้รับความเสียหายแทนที่จะเป็นการได้รับการบำรุงอย่างเหมาะสม 

การทำไอออนโต หรือไอออนโตฟอเรสิส (Iontophoresis)

คือ การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวโดยใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำ เพื่อที่จะผลักตัวยาให้ซึมเข้าสู่ผิว ซึ่งวิธีนี้มีความสามารถในการช่วยแก้ปัญหาฝ้าหรือผิวหมองคล้ำได้เช่นกัน รวมไปถึงยังช่วยแก้ปัญหาสิวและทำให้หน้าดูสดใสได้มากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำไอออนโตจะทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีชมพูชั่วคราว และอาจจะต้องมีการทำหลายครั้งกว่าที่จะเห็นผลได้อย่างที่ต้องการ แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำวิธีนี้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพราะจะส่งผลทำให้ผิวแพ้ง่ายหรือทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่ายมากขึ้น

การทำไครโอเทอราพี (Cryotherapy)

คือ การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวโดยใช้ความเย็นที่อุณหภูมิลบ 5-10 องศาเซลเซียส โดยอาศัยหลักการของพลังงานประจุไอออนบวกและไอออนลบ เพื่อช่วยให้วิตามินซึมซาบลงลึกสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ฟื้นฟูการบำรุงลึกให้ถึงระดับเซลล์ผิว และเห็นผลหน้าใสไร้สิวได้ใกล้เคียงกับการฉีดวิตามิน

นอกจากนี้ ที่ Doctorlife Clinic ยังผสานการทำงานร่วมกับนวัตกรรม Luminous Trinity หรือการใช้แสงบำบัด 3 สี ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง ที่จะเข้าช่วยแก้ปัญหาผิว ลบเลือนจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ลดสิว ลดรอยแดงรอยดำ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

เลเซอร์หน้าใส ทางเลือกใหม่ที่ทำให้หน้าใสไร้สิวได้ตามต้องการ

การทำเลเซอร์เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวอย่างรวดเร็ว และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มีเลเซอร์หลายอย่างที่ช่วยทำให้หน้าใสไร้สิวได้ เช่น

เลเซอร์ Pico

เลเซอร์ Pico มีความสามารถในการช่วยสลายฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำให้หน้าใสไร้สิวได้อย่างที่ต้องการ เลเซอร์ตัวนี้จะยิงด้วยความถี่ระดับ Picosecond หรือ 1 ต่อล้านล้านวินาที ทำให้เข้าไปรักษาปัญหาใต้ชั้นผิวหนังได้อย่างตรงจุด โดยไม่เกิดการสะสมของความร้อน 

ดังนั้น จึงช่วยให้เกิดผลกระทบเกี่ยวกับอาการแสบร้อนหลังการยิงเลเซอร์ค่อนข้างน้อย ช่วยกระชับรูขุมขนที่กว้าง รวมไปถึงการแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากหลุมสิวได้ดี ทำให้สามารถเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างที่ต้องการ 

เลเซอร์คาร์บอน

นวัตกรรมเลเซอร์ตัวใหม่ที่ Doctorlife Clinic ภูมิใจเสนอ เลเซอร์คาร์บอนจะเป็นเลเซอร์ที่ช่วยทำลายเม็ดสีผิวโดยตรง โดยจะมีการใช้ผงคาร์บอนทาลงไปที่ผิวหน้าก่อน และผงคาร์บอนจะช่วยดูดซับแสงเลเซอร์ให้สามารถลงลึกสู่ชั้นผิว โดยสามารถลงไปใต้ชั้นผิวหนังได้ 1-1.5 มิลลิเมตร 

นวัตกรรมเลเซอร์คาร์บอนจึงมีผลต่อการปรับผิวให้ดูหน้าใสไร้สิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างเห็นผลภายใน 14 วัน อีกทั้งยังมีส่วนในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเนียนนุ่มได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย 

ทำทรีตเมนต์ผิว แนวทางการบำรุงที่ช่วยให้หน้าใสไร้สิวไปได้นาน ๆ

การทำทรีตเมนต์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวหน้า แต่วิธีนี้อาจจะไม่ได้เหมาะสมสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนัก ๆ เช่น หลุมสิว หรือฝ้ากระที่เด่นชัด แต่จะเป็นการบำรุงแบบทั่ว ๆ ไปเพื่อทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสมากขึ้น

ขั้นตอนในการทำทรีตเมนต์จะแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ขั้นตอน แล้วแต่โปรแกรมที่คุณเลือก โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะประกอบไปด้วยการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป การกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วยการนวด รวมไปถึงการมาสก์หน้าด้วยสารสกัดจากธรรมชาติประเภทต่างๆ ซึ่งต่างมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวหน้าจากภายนอกสู่ภายใน และการทำทรีตเมนต์ก็สามารถทำได้ค่อนข้างบ่อยตามที่คุณต้องการ

ถ้าใครสนใจทำทรีตเมนต์กับ Doctorlife Clinic ที่นี่มีโปรแกรม Aqua Peel ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก และเป็นทรีตเมนต์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวหน้า โปรแกรมนี้จะประกอบไปด้วยการทำโอโซนสครับเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน การทำความสะอาดผิวด้วยอณูน้ำบริสุทธิ์ และการนวดกดจุดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองและเลือด ซึ่งช่วยให้ทรีตเมนต์โปรแกรมนี้เป็นทางเลือกในการสร้างหน้าใสไร้สิวได้อย่างที่ต้องการ

สรุปว่าการทำให้หน้าใสไร้สิวแบบไหนดีที่สุด

กระบวนการในการทำให้ผิวอ่อนเยาว์ หน้าใสไร้สิว มีอยู่หลากหลายวิธี ทั้งวิธีการทั่ว ๆ ไปที่ทำได้ที่บ้านหรือวิธีการที่จะต้องเข้าไปในคลินิกเวชกรรม เพื่อให้คุณหมอช่วยดูแลด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ซึ่งการจะเลือกว่าควรจะใช้วิธีไหนคงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล หรือปัญหาผิวหน้าที่มี ซึ่งหากคุณเลือกวิธีที่ถูกต้อง และพยายามป้องกันการเกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้คุณมีผิวสวยหน้าใสได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม 

ดูแลหน้าใสไร้สิวไปกับ Doctorlife Clinic

หากคุณกำลังมองหาคลินิกเวชกรรมที่รวบรวมนวัตกรรมทางการแพทย์ที่นำสมัย ไม่ว่าจะเป็นการทำ IV Drip, การทำ Skin Booster, การผลักวิตามินให้ผิว, การทำเลเซอร์หน้าใส หรือทำทรีตเมนต์ผิว ที่ Doctorlife Clinic มีแพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทาง และพร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านความงามโดยเฉพาะ 

Doctorlife Clinic คืออีกหนึ่งช่องทางที่คุณสามารถขอคำแนะนำเพื่อสร้างหน้าใสไร้สิวได้ เพราะเราคือผู้ที่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าในทุก ๆ ปัญหาผิว และพร้อมที่จะให้คำปรึกษาเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาผิวหน้าไปด้วยกัน