สิวที่คาง เกิดจากอะไร ? ต้องแก้ยังไง ? ปัญหากวนใจที่ใคร ๆ ก็อยากรักษาให้หายขาด
สิว เป็นปัญหาที่ใคร ๆ ก็คงไม่อยากมี ซึ่งไม่ว่าจะขึ้นบริเวณไหนก็ล้วนแต่สร้างความกังวลใจไม่น้อยเลย โดยเฉพาะปัจจุบัน สิวที่คาง ก็เป็นปัญหาสิวที่มักพบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากในชีวิตประจำวันคนส่วนใหญ่ยังคงมีการใส่หน้ากากอนามัยหรือแมสก์อยู่นั่นเอง และการใส่แมสก์บ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้สิวมีอาการเห่อขึ้นมามากกว่าปกติ แล้วยิ่งรักษาเท่าไหร่ก็ยังไม่หายขาด ยังคงกลับมาเกิดซ้ำอีก ก็ยิ่งสร้างความกังวลใจและทำให้หลายคนหมดความมั่นใจกันไปมากเลยทีเดียว ในวันนี้ Doctorlife Clinic จึงจะพาไปรู้จักสาเหตุ สิวที่คาง เกิดจากอะไร ? สิวขึ้นที่คางมีกี่ชนิด ? มีวิธีรักษาสิวที่คางอย่างไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย
5 สาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นที่คาง เกิดจากอะไร ?
สิวที่คาง จัดเป็นปัญหาสิวในกลุ่มโรคทางผิวหนัง หรือโรคสิว (Acne Vulgaris) ซึ่งเป็นการอักเสบเรื้อรังของ Pilosebaceous Unit ที่ประกอบด้วย รูขุมขน (Follicles) และต่อมไขมัน (Sebaceous gland) ทำให้เกิดตุ่มนูน และมีการอักเสบจนกลายเป็นสิวขึ้นตามมา โดยสิวที่คางนี้มักจะเกิดขึ้นบริเวณคาง สิวขึ้นกรอบหน้าบริเวณใต้คาง และสิวบริเวณสันกราม ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน และมักพบบ่อยในกลุ่มวัยรุ่น หรือผู้หญิงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยสาเหตุหลัก ๆ ของปัญหา สิวที่คาง เกิดจากอะไร มีปัจจัยดังนี้
- ฮอร์โมน
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนซึ่งจะมีผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพิ่มสูงขึ้น จึงไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามาก แล้วเกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวที่คางตามมา โดยมักจะเกิดในช่วงก่อนมีประจำเดือน - มลภาวะ และการสะสมของสิ่งสกปรก
ฝุ่น หรือมลภาวะ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเป็นสิ่งที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นเหล่านี้ก็เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะหากเราล้างหน้าไม่สะอาดก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดสิวที่คางและเกิดการอักเสบตามมาได้ง่ายเช่นกัน - ชอบสัมผัส แกะ เกา ใบหน้าและคางบ่อย ๆ
บริเวณคางเป็นตำแหน่งที่สามารถเกิดสิวได้ง่าย เนื่องจากคนเรามักจะใช้มือสัมผัสใบหน้าหรือคาง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเท้าคาง หรือการบีบสิว ซึ่งมือก็ถือว่าเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าไปจับอะไรที่มีเชื้อโรคมาบ้าง หากมีการสัมผัสบริเวณคางบ่อย ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกให้กับผิวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันขึ้นที่คางได้ - การใส่หน้ากากอนามัยซ้ำ ๆ
สำหรับการสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน หรือสวมอันเดิมซ้ำ ๆ จะยิ่งทำให้คางสะสมสิ่งสกปรกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากภายใต้หน้ากากอนามัยอาจมีทั้งเหงื่อ น้ำมัน และเครื่องสำอางที่ออกมาจากผิว จนเกิดเป็นความอับชื้น และเกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย ส่งผลทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ง่าย - ความเครียด หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ
การมีความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวขึ้นได้ เนื่องจากเมื่อมีความเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมนบางชนิดเพิ่มขึ้น เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) และฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้ถ้ามีระดับเพิ่มมากขึ้นจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและทำให้เกิดสิวที่คางขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ
ประเภทของสิวที่คาง แบ่งออกเป็นกี่ชนิด ?
สิวที่เกิดขึ้นบริเวณคาง ใต้คาง และสันกราม มีหลายประเภทด้วยกัน ดังนี้
- สิวอักเสบตรงคาง เป็นสิวที่คางที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดมาจากสิวอุดตันมีขนาดใหญ่ขึ้น จนทำให้ผนังรูขุมขนแตก แล้วเชื้อแบคทีเรียจึงเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย ส่งผลให้มีการอักเสบตามมานั่นเอง
- สิวอุดตันที่คาง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นหัวชัดเจน เกิดจากไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวจับตัวกับสิ่งสกปรกแล้วตกค้างอยู่ภายในรูขุมขน จึงเกิดเป็นสิวอุดตันขึ้นมา และเมื่อเอามือลูบดูจะรู้สึกเป็นก้อนแข็ง
- สิวขึ้นที่คางไม่มีหัว เป็นชนิดสิวที่จะไม่มีหัวให้เห็น ไม่มีหัวหนอง บีบออกไม่ได้ หรือบีบออกได้ยาก ซึ่งจะเป็นตุ่มนูนแดงหรือเป็นไตที่อุดตันอยู่ในชั้นลึกของผิวหนัง โดยสามารถแบ่งย่อยออกเป็นสิวอื่น ๆ ได้ เช่น สิวหัวขาว สิวไต สิวหัวช้าง
- สิวผดที่คาง จะมีลักษณะเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ และจะไม่มีหัวเหมือนสิวชนิดอื่น ๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่อากาศร้อน หรือผิวสัมผัสกับฝุ่นมาก ๆ เนื่องจากรังสี UVA จากแสงจะกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้ง่าย รวมทั้งอาจเกิดจากเชื้อราก็ได้เช่นกัน
- สิวเสี้ยนใต้คาง เป็นชนิดสิวที่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ซึ่งรูขุมขนที่เป็นสิวเสี้ยนจะสร้างเส้นขนเยอะกว่าปกติ จึงทำให้มีลักษณะเป็นจุดดำ ๆ เล็ก ๆ หรือมีลักษณะคล้ายหนามแหลม ๆ ยืนออกมาทางรูขุมขนคล้ายสิวอุดตันหัวดำ
เคลียร์จบทุกปัญหาสิว ด้วยโปรแกรม Acne Clear รักษาสิว 5 ขั้นตอน ที่ Doctorlife
รักษาสิวที่คางให้หายขาดด้วยโปรแกรม Acne Clear รักษาสิว 5 ขั้นตอนที่ Doctorlife Clinic เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยรักษาสิวและแก้ปัญหาเรื่องสิวโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและใช้เวลาในการรักษาไม่นาน โดยโปรแกรมรักษาสิว 5 ขั้นตอนนี้ จะเป็นการใช้เทคโนโลยีการฉายแสง การกดสิว และการบำรุงผิว เพื่อรักษาปัญหาสิวตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิว และช่วยลบเลือนรอยสิว พร้อมป้องกันไม่ให้สิวกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง ซึ่งการรักษาสิว 5 ขั้นตอน จะมีด้วยกันดังนี้
- คลีนหน้า
เริ่มด้วยขั้นตอนแรกจะเป็นการคลีนหน้า หรือทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเตียมผิวสำหรับการบำรุงอย่างเต็มที่ และเพื่อทำให้รู้ขุมขนสะอาด ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันหรือเครื่องสำอางที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าให้สะอาดหมดจด - กดสิวอุดตัน
เพราะสิวอุดตันอาจทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาได้ แพทย์ผู้ชำนาญจึงจะทำการประเมินสภาพผิวหน้า และทำการกดสิวอุดตันด้วยอุปกรณ์เฉพาะของ Doctorlife ที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาเป็นอย่างดี - ฉายแสง
เป็นการฉายแสง LED สีฟ้า ด้วยความยาวคลื่น 470 นาโนเมตร ซึ่งจะช่วยในการฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบของสิว และลดการทำงานของต่อมไขมัน รวมทั้งการฉายแสงยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ และทำให้สิวที่เป็นอยู่แห้งตัวเร็วขึ้น - มาส์กหน้า
ขั้นตอนต่อมาจะทำการมาส์กหน้าด้วยสูตรพิเศษเฉพาะของ Doctorlife เพื่อลดการอักเสบของสิว พร้อมฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมทั้งช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี - เซรั่มบำรุง
ขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการลงเซรั่มบำรุงผิว เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ พร้อมช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก ช่วยในเรื่องของการควบคุมความมัน และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
หลังการแก้ปัญหาสิว Acne Clear รักษาสิว 5 ขั้นตอน จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่มีประสทธิภาพมาก คือ ช่วยลดการอักเสบของสิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนกระชับ ควบคุมความมัน และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เผยผิวสวยได้อย่างมั่นใจ สิวที่คางไม่กลับมากวนใจอีกครั้ง