โปรแกรมฉีดโบหน้าผาก ลดริ้วรอย ไม่ต้องรอให้อายุเยอะ ฉีดก่อน เด็กกว่า!

บริเวณหน้าผากเป็นจุดที่เกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่ายมาก ยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้นก็จะยิ่งเห็นริ้วรอยที่หน้าผากชัดเจนขึ้น แต่หากเรามีการดูแลหรือป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยชะลอริ้วรอยบริเวณหน้าผากให้เกิดช้าขึ้น ซึ่งในปัจจุบันวิธีที่ใครหลายคนนิยมทำนั่นก็คือ “โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก” หัตถการที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่เริ่มมีริ้วรอยเล็กๆ เพราะหากปล่อยไว้นานจะยิ่งมีริ้วรอยร่องลึกมากขึ้น ดังนั้น ถ้าต้องการให้หน้ายังดูอ่อนเยาว์ การทำโปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอยหน้าผากตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะช่วยป้องกันริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก คืออะไร?

โปรแกรมฉีดโบหน้าผาก คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก ซึ่งตัวยาจะเข้าไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงเกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่หดเกร็งบนหน้าผากและมัดกล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลงชั่วคราว ส่งผลให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณที่ฉีดนั้นดูตื้นขึ้น หน้าผากเรียบเนียนมากขึ้น เวลาที่เราแสดงสีหน้าต่างๆ ก็จะไม่ทำให้เกิดรอยพับหรือรอยย่นของผิวที่หน้าผาก

ริ้วรอยที่หน้าผากเกิดจากอะไร?

ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เป็นจุดที่สามารถเกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย ซึ่งสาเหตุหลักๆ เกิดจากการที่เรามีอายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังก็จะลดลงทำให้สูญเสียความยืดหยุ่น ผิวหนังจึงเกิดการหย่อนคล้อยเป็นริ้วรอยและรอยย่นที่หน้าผากตามมา รวมทั้งยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เช่น เกิดจากการแสดงทางสีหน้าและอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว ยิ้ม หัวเราะ ความเครียด หรือเกิดจากแสงแดด มลภาวะ การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

โดยริ้วรอยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. ริ้วรอยตื้น – จะเกิดบนผิวชั้นหนังกำพร้า สาเหตุมาจากผิวขาดความชุ่มชื้น การแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ เช่น การยิ้ม ขมวดคิ้ว ยกหน้าผาก หัวเราะ หรือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากบ่อยๆ และจากมลภาวะ ทำให้มีลักษณะเป็นเส้นริ้วรอยบางๆ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และมักพบริ้วรอยนี้บริเวณรอยตีนกา และรอยย่นบนหน้าผาก
  2. ริ้วรอยร่องลึก – ริ้วรอยประเภทนี้เกิดจากการที่มีอายุมากขึ้น ทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว และเกิดจากผลกระทบภายนอก เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน รวมทั้งเกิดจากการแสดงสีหน้าต่างๆ ที่เมื่อเวลาผ่านไปมักจะมีร่องลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถสังเกตได้ชัดแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

สำหรับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยบนหน้าผาก ชอละการเกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก แต่หากต้องการให้ใบหน้าโดยรวมดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ต้องอาศัยการดูแลผิวหรือริ้วรอยบริเวณอื่นๆ รวมด้วย เช่น ริ้วรอยระหว่างหว่างคิ้ว ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือรอยตีนกา ที่จะเห็นได้ชัดมากเมื่อแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ดังนั้นการฉีดลดริ้วรอยหน้าผากจึงมักจะทำควบคู่ไปกับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์บริเวณหางตา เพื่อลดริ้วรอยบริเวณเหล่านี้ให้ดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นเอง

ใครที่เหมาะกับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

  • ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ผู้ที่ไม่มั่นใจเวลาแสงสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว หรือย่นหน้าผาก เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องการชะลอริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ผู้ที่คิ้วยกขึ้นตลอดเวลาเมื่อพูด

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก กี่วันเห็นผล?

โดยปกติแล้วหลังการฉีดโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก เพื่อลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลผิวจะเริ่มตึงขึ้นใน 3-4 วัน และหลังจากนั้นริ้วรอยจะค่อยๆ ตื้นขึ้น แล้วจึงเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยผิวบริเวณที่ฉีดจะรู้สึกถึงความเรียบเนียน ผิวตึงกระชับขึ้น และริ้วรอยดูจางลง ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลังฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลตัวเองหลังฉีด นอกจากนี้การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ จะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง และถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ สามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้ตามคำแนะนำของแพทย์

หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผากดูแลตัวเองอย่างไร มีข้อห้ามทำอะไรบ้าง?

ทริคหลังทำโปรแกรมฉีดโบหน้าผากที่แนะนำคือ ควรขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีประมาณ 1-2 ครั้ง และควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุดและเพื่อให้ตรงจุดที่ต้องการรักษา โดยวิธีการดูแลตนเองและการป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยที่หน้าผากหลังฉีด มีด้วยกันดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการกด นวด ถู แกะ เกาบริเวณที่ฉีด
  • งดนอนราบ นอนตะแคง และก้มหน้า หลังฉีด 3-4 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด
  • งดการเลเซอร์หน้า ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังฉีด

หลังทำโปรแกรมฉีดโบหน้าผาก ห้ามกินอะไรบ้าง?

นอกจากการดูแลตัวเองให้ดีหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยหน้าผากแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งที่ควรระวังด้วยเช่นกัน โดยอาหารที่ห้ามกินหลังฉีดประมาณ 14 วัน ได้แก่

  • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาหรือต้องโดนไอความร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง เป็นต้น
  • อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักดอง และผลไม้ดองต่างๆ
  • อาหารที่มีรสเผ็ดจัด หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
  • งดอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

บริเวณหน้าผากเป็นจุดที่สามารถเกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย และยิ่งหากมีอายุมากขึ้นก็จะยิ่งมีริ้วรอยร่องลึกขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากใครที่ไม่ต้องการให้หน้าผากเกิดริ้วรอยหรือรอยย่น การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผากก็ถือว่าเป็นหัตถการที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ดี โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่เนิ่นๆ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มมีริ้วรอยใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเหล่านั้นลึกขึ้น หรือเกิดเป็นริ้วรอยถาวรตามมา ซึ่งท่านใดที่สนใจโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผากฉีดจุดอื่นๆ สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้ที่ Doctorlife Clinic โดยคุณหมอจะช่วยประเมินการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และช่วยรักษาอย่างเต็มที่กับทุกท่าน