โปรแกรมฉีดโบลดกราม เป็นหนึ่งในวิธีการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กหรือมีรูปหน้าเป็นไปอย่างที่ต้องการ ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้มีความปลอดภัย รวดเร็ว และเห็นผลได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย จึงจะทำให้ผลของการฉีดสาร Botulinum เข้าไปช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ และทำให้ใบดูเรียวเล็กลงได้
โปรแกรมฉีดโบลดกราม ช่วยอะไรได้บ้าง?
โปรแกรมฉีดโบลดกราม มีส่วนในการช่วยลดขนาดกราม และทำให้กรอบหน้าดูเรียวกระชับได้ โดยสารที่ฉีดคือ สาร Botulinum Toxin Type A (โบทูลินัม ท็อกซิน เอ) ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เมื่อฉีดเข้าไปที่บริเวณกรามจะมีผลต่อการลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ ให้เล็กลง ซึ่งหากมีการวิเคราะห์โครงหน้า ฉีดในจุดที่เหมาะสม และฉีดในปริมาณที่ถูกต้อง ก็มีส่วนช่วยปรับใบหน้าให้เรียวเล็กลงอย่างที่ต้องการได้
ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละคนด้วยว่า มีสัดส่วนของกล้ามเนื้อมากน้อยแค่ไหน เพราะสาร Botulinum จะมีส่วนในการลดขนาดของกล้ามเนื้อเป็นหลัก แต่หากเป็นปัญหากรามใหญ่เนื่องจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ไขมัน หรือกระดูก ก็จำเป็นต้องใช้วิธีการอื่นเข้าช่วยร่วมด้วย
โปรแกรมฉีดโบลดกราม กี่วันเห็นผล?
โดยส่วนใหญ่แล้วโปรแกรทฉีดโบลดกรามเพื่อปรับรูปหน้าจะเริ่มเผยผลลัพธ์ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนทึ่สุดจะปรากฏขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ ซึ่งถือว่ารวดเร็วกว่าการศัลยกรรมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเร็วหรือช้าอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณสารที่ฉีด ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณกราม รวมถึงการตอบสนองของร่างกายในแต่ละบุคคลด้วย
หลังจากฉีดไปแล้ว โปรแกรมฉีดโบส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน เมื่อครบเวลาสารตัวนี้จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ทำให้กล้ามเนื้อค่อย ๆ กลับมามีขนาดใหญ่ตามปกติ ซึ่งเราสามารถฉีดซ้ำ เพื่อคงผลลัพธ์ที่ต้องการได้
ข้อควรระวังของโปรแกรมฉีดโบลดกราม
เพื่อผลลัพธ์ตามความต้องการ มีข้อควรระวังหลายอย่างที่เราควรจะพิจารณา และเรียนรู้ไว้ก่อนตัดสินใจเข้าโปรแกรม โดยข้อห้ามหรือข้อควรปฏิบัติระหว่างรับโปรแกรมฉีดโบลดกราม ดังนี้
1. ระวังโบปลอมหรือโบหมดอายุ เพราะการได้รับของปลอมหรือของที่เสื่อมสภาพ ย่อมทำให้การรักษาไม่ได้ผล และอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ซึ่งวิธีที่เราจะสามารถหลีกเลี่ยงสารปลอมหรือสารหมดอายุได้ ก็คือ เลือกทำโปรแกรมฉีดโบลดกรามกับคลินิกเชื่อถือได้ และไม่รับบริการจาก “หมอกระเป๋า” หรือซื้อสารจากร้านค้าออนไลน์เพื่อมาฉีดเอง
2. หลีกเลี่ยงยาบางประเภท ก่อนเข้ารับโปรแกรมฉีดโบลดกราม เราควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs ประเภท Naproxen และ Ibuprofen ก่อนฉีด เพราะยาในกลุ่มนี้อาจมีผลทำให้เกิดอาการบวมช้ำเข็มมากขึ้น และอาจทำให้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่อาการบวมจะลดลง
3. แจ้งประวัติการเป็นโรคเริม คนที่มีเคยเป็นโรคเริมบริเวณริมฝีปาก จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์รับทราบก่อนทุกครั้ง เพราะสาร Botulinum ที่ฉีดเข้าไป อาจมีผลให้อาการเริมกำเริบได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องได้รับยาเพื่อป้องกันอาการข้างเคียงเหล่านี้ และเพื่อทำให้โปรแกรมลดกรามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
4. ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี หลังโปรแกรมฉีดลดกรามแล้ว ควรมีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการอักเสบบริเวณใบหน้า ด้วยการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วงแรก นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือ ลงน้ำหนักในบริเวณที่ฉีด เช่น หลีกเลี่ยงการเท้าคาง หรือการนอนตะแคงในช่วงวันแรกหลังทำ เป็นต้น
5. เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้มั่นใจว่า โปรแกรมฉีดโบลดกรามที่เราจะได้รับนั้นมีความปลอดภัยและจะให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยผู้ดำเนินการควรต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการประเมินโครงสร้างใบหน้า กำหนดจุดฉีดที่ถูกต้อง เตรียมสารอย่างถูกวิธี และลงมือฉีดอย่างประณีต
โปรแกรมฉีดโบลดกรามอย่างเดียว ทำให้หน้าเรียวได้จริงไหม?
เป็นคำถามที่หลายคนถามกันมามากว่า ทำโปรแกรมฉีดโบลดกราม เพียงอย่างเดียวจะช่วยทำให้หน้าเรียวลงได้จริงอย่างที่ต้องการหรือไม่? คำตอบนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากพื้นฐานของใบหน้าของคนย่อมไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น
หากว่าคุณเป็นคนที่มีใบหน้าค่อนข้างใหญ่เนื่องจากมีกล้ามเนื้อบริเวณกรามค่อนข้างมาก โปรแกรมฉีดโบลดกรามก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สามารถทำให้หน้าเรียวลงได้อย่างชัดเจน เพราะสาร Botulinum จะเข้าไปลดขนาดของกรามเนื้อบริเวณดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการอื่นใดเพิ่ม
แต่ในกรณีของคนที่อาจจะมีปัญหาใบหน้าใหญ่เนื่องจากมีทั้งปัญหากล้ามเนื้อใหญ่ และไขมันเยอะ ก็จำเป็นจะต้องมีการใช้หัตถการณ์อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาแต่ละจุดอย่างถูกวิธี และทำให้หน้าเรียวลงได้ในที่สุด
โปรแกรมฉีดโบลดกราม อันตรายไหม?
ความอันตรายของโปรแกรมฉีดโบลดกราม ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ดำเนินหัตถการและคลินิกที่เราเลือกรับบริการ เนื่องด้วยโปรแกรมฉีดโบลดกรามควรถูกดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น โดยแพทย์จะต้องเริ่มต้นกระบวนการตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพผิวหรือปัญหาบนใบหน้า และเลือกชนิดของสาร Botulinum ที่ให้ผลลัพธ์ตามความต้องการของผู้เข้ารับการรักษามากที่สุด
โปรแกรมลดกราม เป็นหัตถการที่ต้องใช้ความประสบการณ์ในการฉีดขั้นสูง ใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และทำการในห้องหรือสถานที่ที่สะอาดถูกสุขลักษณะ ที่สำคัญ หลังจากฉีดสาร Botulinum ไปแล้วก็ยังจะต้องดูแลใบหน้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองหรืออาหารที่มีแอลกอฮอล์ด้วย
โปรแกรมฉีดโบลดกราม เหมาะกับเราไหม?
สำหรับคนที่อยากจะปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง และสงสัยว่าตัวเองเหมาะสมกับโปรแกรมฉีดโบลดกรามหรือไม่ แนะนำให้เข้าปรึกษากับคุณหมอเพื่อตรวจประเมินใบหน้าเสียก่อน โดยปัยจัยที่ควรพิจารณาก็มีอยู่มากมาย เช่น
- รูปร่างและลักษณะของกราม หากคุณมีกรามที่กว้างหรือเหลี่ยม ซึ่งได้รับการตรวจวิเคราะห์แล้วว่ามีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ในบริเวณนี้
- มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับกราม ผู้ที่มีอาการชอบกัดกราม สามารถฉีดสาร Botulinum เพื่อบรรเทาความรุนแรงในการกัดกรามลงได้ แม้ว่าอาการนั้นจะไม่ได้หายไปอย่างเด็ดขาด แต่ก็ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอีกทางหนึ่ง
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า สาร Botulinum มีส่วนช่วยลดขนาดของกรามเนื้อในบริเวณที่ฉีด โปรแกรมฉีดโบลดกรามจึงจะเหมาะกับคนที่มีปัญหากรามใหญ่เนื่องด้วยกล้ามเนื้อใหญ่หรือกล้ามเนื้อแน่น แต่หากคุณกรามใหญ่เนื่องจากกระดูกหรือมีไขมันสะสมเยอะ โปรแกรมนี้ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
และหากปัญหากรามใหญ่ที่คุณเป็นอยู่เป็นเพราะการมีไขมันสะสมบริเวณใบหน้ามาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น โปรแกรมสลายไขมัน หรือหากปัญหาเป็นเพราะกระดูกกรามใหญ่ ก็อาจต้องอาศัยการผ่าตัดกระดูกเพื่อลดขนาดแทน
โปรแกรมลดกรามของเกาหลีกับอเมริกา แตกต่างกันอย่างไร
โปรแกรมฉีดโบลดกรามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มักจะเป็นโปรแกรมจากประเทศเกาหลี และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราสามารถรีวิวความแตกต่างโดยรวม ในด้านความเร็วในการออกฤทธิ์ ระยะเวลาการออกฤทธิ์ และความบริสุทธิ์ได้ ดังนี้
- ความเร็วในการออกฤทธิ์ สาร Botulinum จากเกาหลีจะค่อนข้างออกฤทธิ์ได้ไวกว่าอเมริกา
- ระยะเวลาการออกฤทธิ์ สาร Botulinum จากอเมริกาเห็นผลบนใบหน้าได้นานกว่าสาร Botulinum จากเกาหลี
- ความบริสุทธิ์ สาร Botulinum จากเกาหลีและอเมริกาถือว่าความบริสุทธิ์สูง แต่อเมริกาจะเป็นสาร Botulinum ที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า
ทั้งนี้ สารแต่ละยี่ห้ออาจมีรายละเอียดของคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งควรพิจารณารายละเอียดของแต่ละยี่ห้อก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ทั้งโปรแกรมฉีดโบลดกรามของเกาหลีและอเมริกาย่อมมีความโดดเด่นที่ต่างกัน หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน ยี่ห้อของอเมริกาก็จะตอบโจทย์มากกว่า แต่หากคุณต้องการตัวเลือกที่หลากหลาย และราคาเอื้อมถึงง่าย ยี่ห้อเกาหลีก็ถือว่ามีจุดเด่นในด้านเหล่านี้ไม่แพ้กัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสารยี่ห้อใด สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยก็ คือ การวิเคราะห์ปัญหาบนใบหน้าก่อนเข้ารับโปรแกรมทุกครั้ง เนื่องด้วยปัญหาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะใช้วิธีเดียวกับคนอื่น ๆ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ในแบบเดียวกันได้
ปรับรูปหน้า ด้วยโปรแกรมฉีดโบลดกรามของ Doctorlife Clinic
Doctorlife พร้อมให้คำปรึกษาและเสนอแนวทางการรักษาตามลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคลด้วยวิธีการที่เหมาะสม ที่ไม่ว่าคุณจะเหมาะสมกับการการรักษาแบบไหน การเข้ามารับบริการจาก Doctorlife Clinic ถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยทำให้คุณ ปรับเปลี่ยนความงามตามที่ต้องการได้ เนื่องจากที่นี่รวบรวมเอานวัตกรรมในการปรับรูปหน้าเอาไว้ในที่เดียว และมีตัวเลือกของสาร Botulinum หลายสัญชาติ ไม่เพียงแค่เกาหลีหรืออเมริกาเท่านั้น แต่เรายังมีโปรแกรมโบลดกราม จากอังกฤษ อย่าง ABO Active 3D Toxin ซึ่งเป็นสาร Botulinum ที่มีงานวิจัยรองรับเรื่องความปลอดภัย และช่วยปรับลดขนาดกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยยกกระชับใบหน้า และทำให้ผิวหน้าดูเด็กลงได้อีกด้วย