ปัญหาผิวหน้าพังช่วงหน้าฝน จัดการยังไงดี? แชร์ 5 วิธีดูแลผิวให้สวยฉ่ำท้าฤดูฝน
ฤดูกาลเปลี่ยน สภาพอากาศก็เปลี่ยน การดูแลผิวหน้าก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำและความอับชื้น ซึ่งหลายคนก็อาจจะชอบหน้าฝนเพราะรู้สึกถึงความเย็นสบายหรือความสดชื่น จนอาจจะละเลยการดูแลผิวพรรณไปแล้วทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าพังช่วงหน้าฝนตามมา เพราะอากาศชื้นๆ แบบนี้ก็อาจพาปัญหาผิวหลายๆ อย่างมาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการก่อให้เกิดทั้งสิวและเชื้อรา หรือสิ่งสกปรกเข้ามาทำลายผิวได้ง่ายๆ ดังนั้น นอกจากจะรู้ปัญหาผิวที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนแล้ว เพื่อการกู้หน้าพังช่วงหน้าฝนให้กลับมาเปล่งปลั่ง วันนี้ Doctorlife Clinic ขอมาแชร์วิธีปรนนิบัติผิวให้สวยฉ่ำ ไม่หวั่นแม้วันฝนตก ใครอยากมีผิวสุขภาพดีพร้อมออกไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอก พบกับทริคดี ๆ ได้เลยค่ะ
ฝนมา ผิวก็พัง รวมปัญหาผิวที่มักพบในช่วงฤดูฝน
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นสูง ซึ่งจะมีผลกระทบต่างๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าฝนตามมาได้ง่าย โดยปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงหน้าฝน ได้แก่
- ผิวหน้ามัน
ในช่วงหน้าฝนจะมีความชื้นในอากาศสูง จึงกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้นและผลิตน้ำมันออกมามาก ส่งผลทำให้หน้ามันมากกว่าปกติ และรูขุมขนขยายขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลทำให้หลายคนประสบปัญหาแต่งหน้าไม่ค่อยติดตามมาด้วยเช่นกัน - ปัญหาสิว
ต่อเนื่องมาจากปัญหาผิวหน้ามัน ทำให้มีน้ำมันเคลือบบนผิวหน้ามากๆ และรูขุมขนกว้างขึ้น จึงส่งผลให้เกิดสิ่งสกปรกหมักหมมในรูขุมขน และความชื้นยังส่งผลให้เชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ดี จึงทำให้เกิดปัญหาสิว ทั้งสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบขึ้นมาได้ง่าย - หน้าโทรม ผิวหมองคล้ำง่าย
ด้วยอากาศในช่วงฤดูฝนที่จะมีเมฆครึ้ม ฝนตก ไม่มีแดด หลายคนก็อาจจะชะล่าใจคิดว่าแสงแดดไม่แรงจนละเลยการทาครีมกันแดด แต่รังสี UV ของแสงแดดที่เราอาจจะมองไม่เห็นก็ยังสามารถทำร้ายผิวของเราได้ และส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวคล้ำเสีย หรือเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น - ผดผื่น ผิวแพ้ง่าย
น้ำฝนที่ปนเปื้อนมลพิษ หรือจากสิ่งสกปรกรอบตัวเรา ทั้งเหงื่อ มลภาวะ และความอับชื้น ทำให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดผิวแพ้ง่าย ส่งผลให้ผิวอักเสบระคายเคือง มีผื่นแดง ผื่นคันจากมลภาวะตามมา รวมทั้งยังทำให้มีกลิ่นเหม็นอับได้ง่ายๆ อีกด้วย
5 เคล็ดลับ จัดการปัญหาผิวหน้าพังช่วงหน้าฝน ให้ผิวเป๊ะปังในวันที่ฝนโปรย
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองไม่ให้เป็นหวัดแล้ว ก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพผิวหน้าให้สดใส เปล่งปลั่ง และนุ่มชุ่มชื้นตลอดหน้าฝนนี้ด้วย ซึ่งวิธีการดูแลผิวหน้าช่วงหน้าฝน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาด
เริ่มด้วยวิธีการดูแลผิวของตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากมลภาวะที่เจอในช่วงหน้าฝน และเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสิวและลดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขนได้ดี ซึ่งหลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำให้ทำคือ การใช้โทนเนอร์สูตรอ่อนโยนปราศจากแอลกอฮอล์หลังจากการล้างหน้า เพื่อปรับสมดุลให้กับผิว และช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวหน้าให้หมดจดมากขึ้น รวมถึงช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงด้วย
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
แม้ในช่วงหน้าฝนจะมีฝนตกและฟ้าครึ้ม ทำให้มีแดดออกน้อย หรือไม่มีแดดในอากาศ แต่รังสี UV จากแสงแดดก็ยังคงกระจายอยู่ทุกบริเวณ และสามารถทำร้ายผิวของเราอยู่เสมอ ดังนั้น ไม่ว่าเราจะออกแดด ออกไปข้างนอก หรืออยู่ในบ้าน ก็จำเป็นจะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำด้วยเช่นกัน โดยแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 และ PA++ ขึ้นไป จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี
- โปรแกรมรักษาสิว 5 ขั้นตอน
จัดการปัญหาสิวในช่วงหน้าฝน ด้วยโปรแกรมรักษาสิว 5 ขั้นตอน จาก Doctorlife Clinic ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวและการเคลียร์ปัญหาสิวจากต้นเหตุของการเกิดสิว เพื่อไม่ให้เกิดรอยสิวถาวรที่รักษายากและไม่ให้สิวกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การทำความสะอาดผิวหน้า, การกดสิวอุดตัน, การฉายแสง LED สีฟ้า ช่วยฆ่าเชื้อสิวและลดการทำงานของต่อมไขมัน, การมาส์กหน้าด้วยสูตรเฉพาะของ Doctorlife ช่วยลดการอักเสบของสิว พร้อมด้วยการบำรุงด้วยครีมสูตรเฉพาะของ Doctorlife เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ และฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรง
- Ultra Rebooting Skin
อีกหนึ่งตัวช่วยกู้ผิวหน้าพัง ซ่อมผิวโทรม ผิวหมองคล้ำ ดูแลฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสวยใส ด้วยโปรแกรมทรีตเมนต์หน้าใส Ultra Rebooting Skin จาก Doctorlife Clinic ซึ่งเป็นการผลักวิตามินผิวโดยการใช้นวัตกรรมความเย็น Cryotherapy อุณหภูมิลบ 5-10 องศา ช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึกระดับนาโน ที่ดีกว่าการทาครีมทั่วไป ผสานการทำงานร่วมกับนวัตกรรม Luminous Trinity แสงบำบัดทั้ง 3 สี ที่จะช่วยจบทุกปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และหน้าหมองคล้ำ ให้ผิวกลับมาดูออร่า ซึ่งแสงแต่ละสีจะมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวดังนี้- แสงสีแดง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอยให้จางลง
- แสงสีเหลือง ช่วยบูสต์ผิวกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย และผิวแดงจากการอักเสบ
- แสงสีน้ำเงิน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียสิว ลดความมันบนผิว และลดการอุดตันของรูขุมขน
- Pico Laser
ปิดท้ายกันด้วยโปรแกรมเลเซอร์หน้าใสตัวดัง อย่าง Pico Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Picosecond Laser ที่จะช่วยทำลายเม็ดสีแบบเฉพาะเจาะจงให้แตกละเอียด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดริ้วรอย แต่จะไม่ทำลายเนื้อเยื่อและไม่ทำให้ผิวบางลง พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิว ปรับผิวให้กระจ่างใส แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ และแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการใส่ใจดูแลตัวเองให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวหน้าพังในช่วงหน้าฝนนี้ โดยสามารถทำตามวิธีการดูแลผิวช่วงหน้าฝนที่เรานำมาฝากในบทความนี้กันได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิวด้วยตัวเองง่ายๆ หรือการใช้หัตถการทางการแพทย์เข้ามาช่วยรักษาก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดี นอกจากนี้การดื่มน้ำมากๆ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการโดนฝน ก็จะช่วยปกป้องผิวของเราให้สุขภาพดีขึ้นได้ สุดท้ายนี้ ฝนตกบ่อยๆ ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพผิวให้ดีกันด้วยนะคะ