ใครที่ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้ หรือพยายามควบคุมอาหารแล้วแต่ห่วงยางรอบเอวก็ยังไม่หายไปอยู่ดี ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “การสลายไขมันด้วยความเย็น” ที่จะช่วยทำให้คุณสามารถกระชับสัดส่วน และกู้หุ่นที่เคยพังให้กลับมาดูดีอีกครั้งได้ วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย และไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องของปัญหาผิวไหม้อีกด้วย
ในบทความนี้ Dcotorlife จะพาคุณเจาะลึกทุกเรื่องของโปรแกรมสลายไขมันด้วยความเย็น ทั้งหลักการทำงาน ข้อดี และข้อจำกัด ไปดูกันว่า วิธีนี้สามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวรจริงหรือไม่ และใครบ้างที่เหมาะกับวิธีนี้
การสลายไขมันด้วยความเย็น Freeze Shaping คืออะไร?
สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาไขมันส่วนเกินจนมีผลกระทบต่อรูปร่าง แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกายหรืองดกินอาหารที่ตัวเองชอบ การสลายไขมันด้วยวิธีการทางการแพทย์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้ตามที่ต้องการและมีประสิทธิภาพ
การสลายไขมันด้วยความเย็น (Coolsculpting) คือ หนึ่งในวิธีการลดไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งใช้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ กระบวนการดังกล่าวจะใช้ความเย็นเพื่อแช่แข็งเซลล์ในชั้นไขมัน เนื่องจากเซลล์ในชั้นนี้จะมีความไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ในชั้นอื่น ๆ หลังจากนั้นจะนวดเพื่อสลายไขมัน และปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกตามธรรมชาติแบบถาวร
กระบวนการนี้จะใช้เครื่องมือที่มีหัวดูดแบบเฉพาะที่ชื่อว่า Freeze Shaping เพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ติดไว้กับหัวของเครื่อง จากนั้นจะปล่อยความเย็นที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อแช่แข็งก้อนไขมันที่ดูดขึ้นมาจุดละประมาณ 30-45 นาที หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกแช่แข็งเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะทำการนวดเพื่อทำให้เซลล์ไขมันตายและสลายเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ก่อนจะส่งต่อไปกำจัดผ่านระบบเลือดและน้ำเหลือง เพื่อขับของเสียในรูปน้ำปัสสาวะออกจากร่างกาย
เลือกสลายไขมันด้วยความเย็นดีอย่างไร?
เนื่องด้วยการกำจัดไขมันนั้นมีหลากหลายรูปแบบ บางคนอาจจะมีความสงสัยว่าแล้วการสลายไขมันด้วยความเย็นดีกว่าวิธีการอื่น ๆ อย่างไร สิ่งสำคัญที่การใช้ความเย็นเป็นประโยชน์ที่ดีสำหรับร่างกายของเรา ก็คือ การใช้ความเย็นที่อุณหภูมิและเวลาเหมาะสมจะไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก ในขณะที่หากเครื่องมีการใช้ความเย็นที่มากเกินไป จะมีการตรวจจับด้วยระบบ Freeze Detect ซึ่งระบบจะช่วยหยุดการทำงานโดยทันทีที่อุณหภูมิของชั้นผิวต่ำเกินกว่าค่าที่กำหนด ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจึงไม่ได้มีอันตรายต่อร่างกาย และตัดปัญหาผิวไหม้จากความร้อนไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม มีเครื่องมือหลายเครื่องที่พยายามเลียนแบบกลไกการทำงานของเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น แต่หากเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้มีการรับรองหรือไม่ได้มีฟังก์ชันการตรวจจับความอุณหภูมิที่แม่นยำ อาจทำให้เกิดปัญหาผิวไหม้จากความเย็นได้เช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่จำเป็นต้องเลือกคลินิกที่มีเครื่องมือทันสมัยและได้มาตรฐาน รวมถึงต้องถูกใช้โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการสลายไขมันด้วยความเย็นเท่านั้นด้วย
การสลายไขมันด้วยความเย็นทำที่จุดไหนได้บ้าง ?
การสลายไขมันด้วยความเย็น สามารถทำได้หลาย ๆ จุดในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสะสมของไขมันส่วนเกินปริมาณมาก ซึ่งอาจส่งผลทำให้รูปร่างไม่ได้สัดส่วน กล้ามเนื้อไม่กระชับ หรือทำให้สูญเสียความมั่นใจในการแต่งตัว ดังนั้น จึงสามารถสรุปส่วนของร่างกายที่สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้
- หน้าท้อง เป็นบริเวณที่นิยมสลายไขมันมากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่มีการสะสมของไขมันส่วนเกินสูง โดยเฉพาะในคนที่มีพฤติกรรมนั่งทำงานนาน ๆ หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกายบ่อย ๆ การสลายไขมันหน้าท้องจะช่วยให้คุณมีหน้าท้องที่เรียบเนียนได้มากขึ้น
- เอว เป็นจุดที่มีการสะสมไขมันเช่นกัน การลดไขมันในจุดนี้จะเปลี่ยนคนที่ดูไร้ทรวดทรงให้กลับมามีรูปร่างที่สมส่วนอีกครั้ง
- สะโพก เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่มักมีไขมันมาสะสม จนทำให้สะโพกมีขนาดใหญ่ และลดความมั่นใจที่เคยมีให้หายไป
- หลัง ไขมันที่สะสมบริเวณหลังอาจทำให้สวมใส่เสื้อผ้าไม่สบาย และทำให้เสียบุคลิกภาพได้
- ต้นขา ทั้งต้นขาด้านในและด้านนอกล้วนแต่เป็นที่สะสมของไขมันได้ทั้งสิ้น จนอาจทำให้ไม่มั่นใจเมื่อต้องสวมใส่กางเกงหรือกระโปรง
- ท้องแขน หลายคนไม่กล้าสวมเสื้อแขนสั้นหรือเสื้อแขนกุด เพราะมีไขมันที่ท้องแขนในปริมาณมาก แต่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ด้วยเทคโนโลยีนี้
- ใต้คาง ไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางอาจทำให้เกิดเป็นคางสองชั้น หรือบางคนก็เรียกมันว่าเหนียง ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูอ้วนขึ้น และกรอบหน้าไม่ชัดเจน แต่สามารถสลายไปด้วยความเย็นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจลดไขมันด้วยวิธีนี้ ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์โดยละเอียด เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความปลอดภัยในแต่ละจุด ซึ่งแต่ละบุคคลอาจได้รับคำวินิจฉัยที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่สภาพร่างกายหรือปริมาณไขมันในแต่ละบริเวณ
การสลายไขมันด้วยความเย็นเจ็บไหม? ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
ในขณะที่ทำการสลายไขมันด้วยความเย็น ผู้เข้ารับบริการสามารถนั่งหรือนอนพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย โดยอาจมีความรู้สึกเย็นหรือรู้สึกตึงในบริเวณที่ทำการรักษาในช่วงแรก ๆ จากนั้นอาการจะค่อย ๆ เบาบางลงจนกลายเป็นอาการชา และกลายเป็นรู้สึกผ่อนคลายในที่สุด
แต่เนื่องจากกระบวนการในการสลายไขมันด้วยการใช้ความเย็นจะมีขั้นตอนทั้งการแช่แข็งและการนวดไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดอาการช้ำในบางบริเวณและในบางบุคคลได้ เพราะการนวดจะต้องใช้กำลังและระยะเวลาพอสมควร เพื่อทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งสลายตัว ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดอาการบวมหรือปวดเล็กน้อยในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก แต่อาการดังกล่าวก็จะหายไปได้เองตามธรรมชาติ
อาการปวดดังกล่าวไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ และไม่แตกต่างจากอาการปวดเมื่อยหลังการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่สำคัญอาการดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ทำเท่านั้น จึงไม่ต้องเป็นกังวลแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน บางคนที่สลายไขมันด้วยความเย็นอาจจะมีอาการชาหรืออาการคันเล็กน้อย ซึ่งจะเกิดขึ้น ณ บริเวณที่ทำในช่วงประมาณ 1 เดือนแรก แต่ปัญหาก็จะค่อย ๆ บรรเทาลง และหายไปได้เองเช่นกัน
การสลายไขมันด้วยความเย็นใช้เวลานานแค่ไหน และควรมากกว่าทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
การเปลี่ยนแปลงหลังการรับบริการจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกอาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยในจุดที่เซลล์ไขมันเพิ่งตายไป และร่างกายยังกำจัดไขมันออกไปไม่หมด จึงเป็นช่วงเวลาที่ควรพักฟื้นเพื่อลดอาการบวมให้หายไป จากนั้น 3-4 สัปดาห์ต่อมาจะเริ่มเห็นผลว่าไขมันมีสัดส่วนที่ลดลง และผลลัพธ์จะออกฤทธิ์เต็มที่อย่างชัดเจนหลังผ่านไปแล้วประมาณ 3 เดือน
ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากระบวนการดังกล่าวต้องใช้เวลาหลายเดือนในการลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบน้ำเหลืองและเลือด เพื่อทำให้เห็นผลการลดไขมันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากเลือกที่จะสลายไขมันด้วยวิธีดังกล่าวแล้ว ก็ควรทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารด้วย เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันใหม่ จนทำให้กระบวนการดังกล่าวไม่เห็นผลดีเท่าที่ควร
จากงานวิจัยที่เคยมีการศึกษามาก่อนหน้านี้ พบว่า การสลายไขมันด้วยความเย็นจำเป็นจะต้องมีการทำซ้ำเพื่อให้เห็นผลได้อย่างชัดเจน โดยงานวิจัยรายงานว่า การใช้ความเย็นในการกำจัดไขมัน 1 ครั้ง จะสามารถลดไขมันในบริเวณที่ทำได้ประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเริ่มต้นของแต่ละบุคคล ดังนั้น หากต้องการให้การกำจัดไขมันเป็นไปได้ดีจึงจำเป็นจะต้องกลับมาทำซ้ำในบริเวณเดิม และต้องเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมด้วย
วิธีสลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับใครบ้าง?
การสลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับคนหลายกลุ่ม เราจะระบุรายละเอียดของคนที่เหมาะสำหรับการลดไขมันด้วยวิธีการนี้ ซึ่งควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. คนที่มีปริมาณไขมันระดับปานกลาง หากวิเคราะห์ดัชนีมวลกาย (BMI) แล้วจะต้องมีค่า BMI น้อยกว่า 35 จึงจะเหมาะสมสำหรับการใช้วิธีนี้ ทั้งนี้ คุณสามารถคำนวณ BMI ได้ง่าย ๆ ด้วยสูตร “น้ำหนักตัว[kg] / (ส่วนสูง[m] ยกกำลังสอง)” แต่หากได้ค่า BMI มากกว่า 35 ก็ควรเลือกใช้วิธีอื่นแทน
2. คนที่ไม่อยากจะผ่าตัดดูดไขมัน เนื่องจากการดูดไขมันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว อีกทั้งยังมีแผลและต้องมีการพักฟื้นนาน หากใครไม่อยากจะต้องเสียเวลาหรือเอาร่างกายไปเสี่ยงกับการผ่าตัดดูดไขมัน ก็สามารถจะใช้ความเย็นเพื่อกำจัดไขมันได้
3. คนที่เคยสลายไขมันด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วไม่ได้ผล วิธีนี้มีความสามารถในการทำลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง และกำจัดไขมันแบบถาวร ใครที่เคยใช้วิธีอื่นมาแล้วแต่ไม่เห็นผลอย่าเพิ่งหมดหวัง ลองใช้นวัตกรรมนี้ในการช่วยลดไขมันดูอีกสักครั้ง เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับรูปร่างได้
4. คนที่ไม่รีบร้อนลดไขมัน เนื่องจากการสลายไขมันด้วยความเย็นจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนกว่าที่ร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกจากร่างกายจนหมด และปรากฏผลอย่างชัดเจน ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้รีบร้อนที่จะเห็นผล ก็สามารถที่จะสลายไขมันด้วยวิธีการนี้ได้
ข้อจำกัดในการสลายไขมันด้วยความเย็น
ไม่เพียงแค่การพิจารณาว่าใครที่เหมาะกับวิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นเท่านั้น แต่จะต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดของบางบุคคลที่ไม่เหมาะสำหรับการใช้นวัตกรรมนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหากเผลอไปใช้กระบวนการดังกล่าวกับคนในบางกลุ่ม อาจทำให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรงหรืออันตรายที่ถึงแก่ชีวิตได้ โดยกลุ่มของคนที่ไม่เหมาะสำหรับวิธีนี้ ได้แก่
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบเลือดหรือน้ำเหลือง เนื่องจากกระบวนดังกล่าวจะมีการทำลายและกำจัดไขมันออกไปทางระบบเลือดและน้ำเหลือง ดังนั้น หากมีความผิดปกติของระบบดังกล่าว จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้วิธีการนี้
- ผู้ที่แพ้ความเย็นหรือไวต่อความเย็น เช่น เป็นโรคลมพิษจากความเย็น หรือโรคกลัวความเย็น เนื่องจากจะต้องมีการใช้เครื่องมือทำความเย็นในอุณหภูมิติดลบ เพื่อแช่แข็งไขมันใต้ผิวหนัง
- ผู้ที่ต้องติดอุปกรณ์บางอย่างในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ เพราะเครื่อง Freeze Shaping อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ดังกล่าว จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ที่มีโรคประจำตัวได้
- ผู้ที่มีแผลผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการรักษา แนะนำให้เว้นระยะห่างหลังการผ่าตัดอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าแผลปิดสนิทและไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ก่อนที่จะเริ่มสลายไขมันด้วยความเย็น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวในบริเวณที่ต้องการรักษา เช่น โรคกลาก โรคผิวหนัง หรือผื่นคัน เนื่องจากอาจทำให้ปัญหาผิวที่เคยมีลุกลามบานปลายได้
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือมีภาวะไส้เลื่อน ความเย็นอาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งลุกลาม ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจาย หรือมีผลร้ายที่ทำให้เกิดการอักเสบหรืออาการบาดเจ็บเพิ่มเติมของคนที่มีภาวะไส้เลื่อนได้
- ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยังไม่มีการยืนยันว่ากระบวนการดังกล่าวปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ และอาจมีผลต่อการให้น้ำนมบุตรได้
- ผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือน การมีประจำเดือนเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของเลือด จึงไม่เหมาะสมที่จะสลายไขมันด้วยความเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะอาจทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ดีได้ ดังนั้น จะเป็นการดีกว่าหากเลือกที่จะใช้วิธีการดังกล่าวหลังผ่านช่วงประจำเดือนไปแล้ว
การเตรียมตัวก่อนสลายไขมันด้วยความเย็น
การเตรียมตัวก่อนสลายไขมันด้วยความเย็นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นจะต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย เพียงแค่เตรียมใจให้พร้อมก่อนที่จะเข้ารับบริการ และพยายามเตรียมร่างกายให้สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนเข้ารับบริการควรจะนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้เกิดความอ่อนล้าอ่อนเพลียในขณะเข้ารับบริการ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากน้ำจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของร่างกายแล้ว การดื่มน้ำมาก ๆ ยังมีผลต่อการสลายไขมันด้วยความเย็นอีกด้วย
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดหดตัว ขัดขวางการไหลเวียนของเลือด และมีผลให้การฟื้นตัวของเนื้อเยื่อช้าลง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางประเภท เช่น ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน หรือยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา/แพ้ความเย็น หรือมีประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ ควรแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วนก่อนทำการรักษา เพราะการปกปิดข้อมูลอาจส่งผลเสียแก่ผู้รับบริการได้
ข้อปฏิบัติหลังสลายไขมันด้วยความเย็น
ข้อปฏิบัติในการทำหลังจากสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะอาจจะมีผลต่อผลลัพธ์ที่แสดงออกทางเรือนร่าง ข้อปฏิบัติที่ควรทำมีดังนี้
- งดการนวดและประคบร้อน เพื่อลดการบวมช้ำควรหลีกเลี่ยงการนวดและการประคบร้อนในช่วง 2 สัปดาห์แรกไปก่อน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง เนื่องจากการรับประทานอาหารประเภทนี้มากเกินไป และร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ไม่หมด จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยทำให้เร่งการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย และเป็นหนึ่งสิ่งที่ควรทำเพื่อทำให้รูปร่างยังคงดีอย่างที่ต้องการ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำอื่น ๆ ของแพทย์ หากมีคำแนะนำอื่น ๆ ที่แพทย์ระบุเพิ่มเติมในแต่ละบุคคล ก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อผลการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สรุปว่าการสลายไขมันด้วยความเย็นดีจริงไหม?
หากคุณกำลังมีปัญหาเรื่องการสะสมของไขมันในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอยากหาวิธีการที่เจ็บตัวไม่มาก การสลายไขมันด้วยความเย็นเป็นหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้ และถือเป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับวิธีสลายไขมันรูปแบบอื่น ๆ
การใช้ความเย็นที่มีอุณหภูมิ -5 ถึง – 9 องศาเซลเซียสและการนวดด้วยเครื่องมือที่ออกแบบมาอย่างดี จะช่วยให้เซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวบางลงและขับออกผ่านเหงื่อหรือปัสสาวะได้ภายใน 14 วัน ซึ่งหากกระบวนนี้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ และทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน ก็จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างที่คุณต้องการ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ไขมันหรือไม่ทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
กระบวนการดังกล่าวจึงถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม การเข้ารับบริการต้องให้ความใส่ใจในการตรวจสอบรายละเอียดที่เหมาะสม จำเป็นจะต้องเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ที่ให้บริการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กระบวนการในการสลายไขมันด้วยความเย็นปลอดภัย ได้รับการควบคุมทั้งเรื่องของอุณหภูมิ ระยะเวลา และวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์จากการลดไขมันด้วยเทคโนโลยีนี้ได้ดีอย่างที่ต้องการ
สลายไขมันด้วยความเย็นกับ Doctorlife Clinic ดีอย่างไร?
หากใครกำลังสนใจอยากดูแลหุ่นให้กระชับ ไม่ว่าจะเป็นการสลายไขมันหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก รอบเอว หรือเหนียงใต้คางก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับ Doctorlife Clinic ได้ โดยเรามีโปรแกรม Freeze Shaping นวัตกรรมการสลายไขมันด้วยความเย็นที่จะช่วยกระชับสัดส่วนเพื่อทำให้คุณกลับมาดูดีได้อีกครั้ง ด้วยโปรแกรมที่จะช่วยเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่มีรูปร่างดีอย่างที่ต้องการ
ผู้ที่สนใจกำจัดไขมันส่วนเกินหรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้กลับมาฟิตกระชับเหมือนที่เคยเป็น สามารถติดต่อและขอคำปรึกษากับแพทย์ที่ Doctorlife Clinic ได้เลย เพราะที่นี่พร้อมจะให้การดูแลและให้คำแนะนำที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล