Ultherapy คืออะไร? นวัตกรรมกระชับผิวหน้า บอกลาผิวหย่อนคล้อย

Ultherapy

หากคุณมีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย และต้องการอยากจะฟื้นฟูเพื่อกู้ผิวหน้าให้กลับมาดูดี ดูเด็ก ดูออ่นวัย Ultherapy คือหนึ่งในโปรแกรมที่จะช่วยยกกระชับใบหน้าและลดความหย่อนคล้อย ซึ่งถือเป็นทางเลือกความงามที่ทันสมัยและไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดศัลยกรรม 

ในบทความนี้ Doctorlife จะพาไปเจาะลึกเทคโนโลยีปรับรูปหน้าและยกกระชับ ทั้งหลักการทำงาน ข้อควรระวัง และข้อควรรู้ ที่จะมอบผิวหน้าที่กระชับและไร้ริ้วรอยได้อย่างที่คุณต้องการ  

Ultherapy คืออะไร?

Ultherapy (อัลเทอร่า)  คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยผ่านเครื่องมือที่ชื่อว่าเครื่อง Ulthera เทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกคิดค้นมากว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

หลักการทำงานของเครื่อง Ulthera จะเป็นการส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงและเฉพาะเจาะจง ลงไปยังตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดของริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยในระดับของกล้ามเนื้อ โดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผลบนชั้นผิวหนัง 

พลังงานคลื่นเสียงที่ถูกปล่อยออกมาจาก Ulthera จะถูกส่งไปยังเป้าหมายได้หลายชั้น โดยระดับความลึกในการยิงจะขึ้นอยู่กับขนาดของหัว Ulthera หากเป็นหัวที่มีขนาดใหญ่สุด ก็จะสามารถยิงลงไปได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อที่ประสานระหว่างชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมัน หรือที่เรียกว่าชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) 

การส่งผ่านความร้อนนี้จะทำให้เกิดการหดตัวใต้ชั้นผิวหนังเป็นจุดเล็ก ๆ ที่มีระยะห่างเท่า ๆ กันที่ 1-1.5 มิลลิเมตร และเกิดความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 65-75 องศาเซลเซียส ความร้อนในระดับนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ และซ่อมแซมคอลลาเจนเดิม เพื่อทำให้ผิวหนังมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นได้

หลักการทำงานของเครื่องมือดังกล่าวได้รับความนิยมไปทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่รับเอานวัตกรรมนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน 

นวัตกรรม Ultherapy ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

นวัตกรรม Ultherapy ด้วยเครื่อง Ulthera เป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความงามโดยเฉพาะ เนื่องจากมีการปล่อยพลังงานในระดับที่เหมาะสมเพื่อเข้าไปรักษาเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการออกแบบให้สามารถปล่อยพลังงานได้ทุกระดับชั้นผิวตามขนาดของหัวยิง หากต้องการทราบว่าประโยชน์ของเทคโนโลยี Ultherapy คืออะไร สามารถสรุปสิ่งที่จะได้รับได้ดังต่อไปนี้

1. สร้างกรอบหน้าเรียว เนื่องด้วยความสามารถในการยกกระชับ การทำ Ulthera จึงมีผลในการกระชับกรอบหน้า ทำให้หน้าเรียวแบบ V-Shape ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะหันมุมไหนก็มั่นใจในทุกมุมมอง อีกทั้งผลลัพธ์ของการรักษาด้วยวิธีนี้ก็คงอยู่ได้ยาวนาน 1 ถึง 1.5 ปีด้วย

2. แก้ปัญหาหางตาตกหรือคิ้วตก การทำ Ulthera มีความสามารถในการช่วยยกกระชับผิวในหลาย ๆ ส่วน รวมถึงบริเวณคิ้วและดวงตา ทำให้สามารถยกหนังตาขึ้นได้ หรือทำให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ไม่ต้องเจ็บตัวทำศัลยกรรม และไม่ทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลง

3. แก้ปัญหาริ้วรอยหรือร่องแก้ม ร่องแก้มเป็นต้นเหตุของการแก่ก่อนวัย และการทำ Ulthera จะมีส่วนในการลดร่องแก้มให้ตื้นขึ้นได้ ดังนั้น จึงช่วยทำให้คุณยิ้มและแสดงสีหน้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น 

4. แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นผิวบริเวณใดบนใบหน้าที่มีความหย่อนคล้อย ก็สามารถทำ Ulthera เพื่อช่วยกระชับชั้นไขมันที่มีคอลลาเจนในแนวตั้ง และทำให้ผิวเรียบเนียนได้มากขึ้น เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งบริเวณดวงตาและหน้าผาก ทำให้ผิวแลดูเต่งตึงขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน

5. แก้ปัญหาริ้วรอยหรือเหนียงบริเวณลำคอ ปัญหาริ้วรอยบริเวณลำคอเป็นปัญหาใหญ่ของคนที่เริ่มมีอายุมากขึ้น และเป็นปัญหาที่น่าหนักใจไม่แพ้ริ้วรอยบริเวณใบหน้า แต่เทคโนโลยีนี้สามารถทำให้ริ้วรอยบริเวณลำคอจางลงได้อย่างชัดเจน เพราะมีความสามารถในการแก้ไขลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งจะช่วยยกกระชับลำคอและลดเหนียงได้ด้วย

ใครที่เหมาะกับ Ultherapy 

เนื่องด้วยปัจจุบันมีนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวมากมาย ซึ่งมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปและให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน การจะเลือกว่าเราเหมาะสมกับเทคโนโลยีแบบไหนจึงต้องผ่านการประเมินโดยแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจในนวัตกรรมทางการแพทย์เสียก่อน 

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากทราบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประเมินตัวเองคร่าว ๆ ว่าตัวเองเหมาะสมกับการทำ Ulthera หรือไม่ เพื่อจะได้เลือกใช้นวัตกรรมนี้ในการดูแลและฟื้นฟูผิวของตัวเอง ลองพิจารณาคุณสมบัติดังต่อนี้ว่าตรงตามที่เราพูดถึงหรือไม่ เพราะคนเหล่านี้สามารถที่ใช้นวัตกรรมยกกระชับเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ได้ คนที่เหมาะกับ Ultherapy คือกลุ่มคนต่อไปนี้

1. คนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ความเสื่อมโทรมของร่างกายจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุย่างเข้าวัย 30 ซึ่งจะเร็วหรือช้าอาจแตกต่างไปในแต่ละคน แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกถึงความกังวลเรื่องความหย่อนคล้อย และต้องการที่จะยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอยให้จางลง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนหน้าผาก รอบดวงตา มุมปาก ลำคอ หรือเนินอก ก็สามารถทำ Ulthera ได้

2. คนที่มีปัญหาบนใบหน้าแต่ไม่อยากทำศัลยกรรม มีปัญหาหลายอย่างที่หลายคนอยากแก้ไข เช่น หนังตาตก หางตาตก แต่ถ้าคุณไม่อยากทำศัลยกรรม สามารถที่จะใช้ Ulthera ในการยกคิ้ว ยกหนังตา โดยไม่ทำให้โครงสร้างของใบหน้าเปลี่ยนแปลง และวิธีดังกล่าวยังเจ็บตัวน้อนและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนานด้วย 

3. คนที่มีปัญหาถุงใต้ตา ปัญหาถุงใต้ตาอาจเกิดจากการขยี้ตามากไป ใช้สายตามากไป หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาหรือต้องการให้ปัญหานี้หายไปอย่างรวดเร็ว สามารถแก้ไขด้วยการทำ Ulthera เพื่อกำจัดถุงใต้ตาได้เช่นกัน 

4. คนที่อยากหน้าเรียวและมีไขมันบริเวณแก้มไม่มาก สำหรับคนที่ต้องการทำให้ใบหน้าเรียวสามารถทำ Ulthera ได้เช่นกัน ทั้งนี้ มีข้อจำกัดที่ควรรู้สำหรับคนที่อยากใช้ Ultherapy นั่นคือ สามารถลดไขมันในบุคคลที่มีไขมันบริเวณแก้มไม่มากเท่าไหร่นัก จึงจะทำให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้อย่างที่ต้องการ และเห็นแนวกรามได้อย่างชัดเจนมากขึ้น 

5. คนที่อยากจะฟื้นฟูผิวแต่ไม่มีเวลา คนที่ไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลผิวของตัวเองมากสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยทาครีม หรือไม่ค่อยสนใจการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี อาจมีปัญหารูขุมขนกว้างหรือมีผิวที่หยาบกร้าน การทำ Ulthera จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และทำให้ผลลัพธ์ของผิวดูดีมากขึ้นกว่าเดิมแม้จะไม่มีเวลามากแค่ไหนก็ตาม

ทำ Ulthera ที่บริเวณไหนได้บ้าง?

การทำ Ulthera สามารถทำได้ในหลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้าหรือบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและทำให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ บริเวณที่สามารถทำ Ultherapy ได้ คือบริเวณต่อไปนี้ 

1. รอบดวงตา ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาหางตาตก หางคิ้วตก หรือริ้วรอยรอบดวงตา สามารถยกกระชับเพื่อลดริ้วรอย และทำให้ดวงตาดูโตขึ้นได้

2. ร่องแก้มหรือมุมปาก สามารถลดริ้วรอยที่ร่องแก้ม เพื่อทำให้ยิ้มอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวหน้าเหี่ยวได้

3. กรอบหน้า การทำ Ulthera จะทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น และช่วยให้ผิวดูฟูและมีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย

4. ใต้คาง ลำคอ หรือเหนียง บริเวณนี้อาจจะเป็นบริเวณที่หลายคนไม่ค่อยดูแลเท่ากับผิวหน้า จึงอาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณนี้หย่อนคล้อยได้ง่ายเมื่ออายุมากขึ้น แต่เทคโนโลยี Ultherapy สามารถยกกระชับผิวหนังส่วนนี้ได้เช่นกัน 

5. เนินอก หากใครที่รู้สึกว่าหน้าอกหย่อนคล้อย และอยากจะทำให้ดูเต่งตึงมากขึ้น ก็สามารถใช้เครื่องมือดังกล่าวยกกระชับผิวได้เช่นกัน 

6. หน้าท้องหรือท้องแขน หากผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีความหย่อนคล้อยเนื่องด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม การทำ Ultherapy คือวิธีที่สามารถยกกระชับให้ผิวกลับมาดูดีอย่างที่ต้องการได้

การทำ Ulthera เป็นอันตรายต่อร่างกายไหม?

แน่นอนว่าการทำหัตถการทุกอย่างจะต้องให้ความสนใจกับความปลอดภัยเป็นสำคัญ การทำ Ulthera ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการใช้คลื่นเสียง ซึ่งทำให้หลายคนมีความกังวลว่า สิ่งนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่? 

การทำ Ultherapy คือเทคโนโลยีกระชับผิวที่ปลอดภัย และมีความแม่นยำในการรักษาปัญหาผิวค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม การใช้งานเครื่อง Ulthera จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง เพราะเครื่องมือดังกล่าวมีความซับซ้อน ผู้ใช้จึงต้องเข้าใจหลักการทำงานของเครื่อง และมีประสบการณ์ในการใช้งานเป็นอย่างดี 

ในทางตรงข้าม หากเครื่องมือดังกล่าวถูกใช้โดยบุคคลอื่น ๆ อาจทำให้การรักษาเกิดอันตรายหรือส่งผลเสียต่อผู้ที่รับบริการได้ 

ด้วยเหตุนี้ การเข้ารับบริการจากคลินิกที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและแพทย์มีความน่าเชื่อถือ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับการทำ Ulthera ด้วยเช่นกัน

ความแตกต่างของ Ultherapy VS Ultraformer 

Ultherapy และ Ultraformer เป็นสองเทคโนโลยียอดนิยมในวงการความงาม ซึ่งมีส่วนในการกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย แม้ว่าทั้งสองวิธีจะมีการทำงานที่คล้ายกัน แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน คนที่กำลังสับสนว่าควรเลือกเทคโนโลยีไหนดีกว่ากัน หรือยังไม่แน่ใจในความแตกต่าง สามารถเรียนรู้ความเฉพาะเจาะจงของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ได้เลย

การทำ Ultherapy คือ การส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ที่มีความถี่สูงไปยังผิวชั้น SMAS อย่างเหมาะสม โดยคลื่นเสียงจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น 

ทั้งนี้ Ulterapy จะเหมาะกับคนที่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งจะทำให้เห็นผลการรักษาได้ดีกว่า 

ส่วน Ultraformer ก็คือ การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการกระจุ้นคอลลาเจนเช่นกัน แต่ Ultraformer จะเป็นการส่งผ่านชั้นคลื่นไปยังชั้นผิวหลายชั้นไม่ใช่เพียงแค่ชั้น SMAS และมีจุดโฟกัสที่เล็กกว่า ทำให้ Ultraformer สามารถยกกระชับและลดริ้วรอยบริเวณจุดเล็ก ๆ ได้ดีกว่า เช่น การแก้ปัญหาหนังตาตก หรือการเติมร่องแก้มลึก 

ทำ Ulthera ที่ Doctorlife Clinic ดีอย่างไร?

Doctorlife Clinic พร้อมให้บริการยกกระชับใบหน้าด้วยเทคโนโลยี Ultherapy SPT ซึ่งก็คือเทคโนโลยี Ulthera ที่พิเศษไปอีกขั้น เนื่องจากจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาและรักษาได้อย่างตรงจุด โดยคำว่า SPT เป็นตัวย่อที่ช่วยขยายความความหมายของขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  • S – See (มองเห็น) เครื่องมือจะแสดงผลผ่านหน้าจอแบบ Real Time และสังเกตปัญหาใต้ชั้นผิวได้อย่างละเอียด
  • P – Plan (วางแผน) การมองเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนช่วยให้วางแผนการกระชับผิวเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด และทำให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพ
  • T – Treat (รักษา) เมื่อมองเห็นและวางแผนได้อย่างตรงจุด ก็จะช่วยให้แพทย์สามารถรักษาด้วยการยิงพลังงานเข้าไปได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงจุดที่อาจมีผลทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้

ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาทางเลือกในการยกกระชับผิวและกรอบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้ารับบริการโปรแกรม Ultherapy SPT กับ Doctorlife Clinic จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่จะช่วยทำให้คุณสามารถดูแลปัญหาบนผิวหน้าได้อย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ในการลดริ้วรอย ลบถุงใต้ตา หรือแก้ปัญหาหางตาตก เพื่อทำให้มีใบหน้าเยาว์วัยอย่างที่คุณต้องการได้ 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultherapy

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ Ultherapy คืออะไรบ้าง?

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ Ultherapy มีไม่มาก เริ่มจากการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด หรือการทำหัตถการอื่น ๆ และประเมินปัญหาบนใบหน้าว่าเหมาะสมที่จะทำ Ulthera หรือไม่ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนวางแผนการรักษา และคาดการณ์จำนวนไลน์หรือช็อตที่เหมาะสมก่อนเข้ารับบริการจริง

สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังทำ Ultherapy คืออะไรบ้าง?

สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังทำ Ultherapy คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือความร้อนอย่างน้อย 4-5 วัน และควรทาครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำอื่น ๆ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด

การทำ Ulthera ให้เห็นผลควรทำกี่ช็อต?

การทำ Ulthera ให้เห็นผลต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า ตำแหน่ง และความหนัก-เบาของปัญหาในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ จำนวนช็อตที่เหมาะสมต่อการทำ Ulthera แบบคร่าว ๆ มีดังนี้ 

  • บริเวณแก้มหรือกรอบหน้าสองข้าง ประมาณ 400 ช็อต
  • บริเวณโหนกแก้ม ใต้ตา ขมับ คิ้ว ประมาณ 200 ช็อต
  • บริเวณเหนียงหรือลำคอ ประมาณ 200 ช็อต

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตัดสินใจทำ Ultherapy คืออะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตัดสินใจทำ Ultherapy คือ อาการแดงหรือบวมเล็กน้อย และส่วนใหญ่จะหายไปได้เอง หรือบางรายอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อใช้มือกดลงไปบริเวณที่ทำ ซึ่งปัญหานี้สามารถหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ในขณะที่ผลข้างเคียงหนัก ๆ แทบจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากการทำ Ulthera มีความปลอดภัยและมีความแม่นยำมาก

การทำ Ulthera เห็นผลเมื่อไหร่ และใช้เวลากี่วันถึงจะหายบวม? 

การทำ Ulthera เห็นผลยกกระชับได้ประมาณ 30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลลัพธ์จะปรากฏเต็มที่ภายใน 3 เดือน กรณีที่มีอาการบวมถือเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ และอาการบวมจะหายไปภายใน 2-3 วัน 

สามารถทำ Ulthera ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม และควรเว้นระยะเวลากี่วัน?

สามารถทำ Ulthera ร่วมกับหัตถการอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม, สาร Botulinum, เมโสแฟต, การทำ HIFU หรือการทำเลเซอร์ผิวหน้า ซึ่งการทำหัตถการร่วมกันจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยควรเว้นระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังทำ Ulthera ทั้งนี้ ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ทำหัตถการถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนเสมอ เพื่อให้ผิวหนังมีเวลาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์